นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สำหรับ ผู้สมัครขอรับทุน และนักเรียนทุน มูลนิธิดำรงชัยธรรม

มูลนิธิดำรงชัยธรรม (ต่อไปนี้ขอเรียกว่า “มูลนิธิ” ) เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศล ลำดับที่ 643 ของประกาศกระทรวงการคลังว่าด้วยภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่มฯ และเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตระหนักเห็นถึงความสำคัญในความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครขอรับทุน และนักเรียนทุน (รวมเรียกว่า “ท่าน”) ดังนั้น มูลนิธิจึงได้จัดให้มีนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้สมัครขอรับทุน และนักเรียนทุน เพื่ออธิบายให้ท่านทราบว่า มูลนิธิเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร ข้อมูลใดบ้างที่มูลนิธิจัดเก็บ มีวัตถุประสงค์ใดในการประมวลผลข้อมูล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิต่างๆ ที่ท่านจะได้รับความคุ้มครองในส่วนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามที่ได้กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

อนึ่ง กรณีผู้สมัครขอรับทุนเป็นผู้เยาว์ที่อายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ ก่อนที่ท่านจะส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่มูลนิธิ ท่านจะต้องได้รับความยินยอมจาก พ่อ แม่ หรือ ผู้ปกครอง ก่อนส่งข้อมูลใดๆมาให้มูลนิธิ ทั้งนี้ มูลนิธิจะไม่เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล รวมถึงดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลของผู้เยาว์ที่อายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์โดยปราศจากความยินยอมจากพ่อแม่ หรือ ผู้ปกครองของท่านทั้งสิ้น

1. นโยบายนี้มีผลใช้บังคับกับใคร
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ มูลนิธิ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะที่ท่านเป็น ผู้สมัครขอรับทุน และนักเรียนทุน รวมถึงข้อมูลของบุคคลที่สามใด ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับท่าน เช่น พ่อ แม่ ผู้ปกครอง เป็นต้น เพื่อประกอบการพิจารณาความเหมาะสมในการรับทุนการศึกษาจากมูลนิธิ

2. นิยาม
  • ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลบางประเภทที่มีความละเอียดอ่อนและเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ประกอบด้วย เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
  • ผู้สมัครขอรับทุน หมายถึง ผู้ที่ประสงค์ขอรับทุนการศึกษาจากมูลนิธิเพื่อศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในสายสามัญ หรือสายอาชีพ จนระดับปริญญาตรี หรือสูงสุดตามศักยภาพ
  • นักเรียนทุน หมายถึง ผู้ที่มีความเหมาะสมและผ่านการคัดเลือกได้รับทุนการศึกษาจากมูลนิธิ
ขั้นตอนการรับสมัครขอรับทุนการศึกษา
วิธีการรับสมัครขอรับทุนการศึกษางานของมูลนิธิจะแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน
  1. การพิจารณาคุณสมบัติและความเหมาะสมของผู้ขอรับทุนจากใบสมัคร และเอกสารประกอบ (Recruitment)
  2. การเรียกสัมภาษณ์ (Interview)
  3. การพิจารณาให้ทุนการศึกษา สำหรับผู้สมัครที่มีความเหมาะสม (Admission) เพื่อทำสัญญารับทุน

3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิเก็บรวบรวม
มูลนิธิได้จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลซึ่งมูลนิธิจะแจ้งให้ทราบในลำดับต่อไป ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิเก็บรวบรวมจาก ผู้สมัครขอรับทุน และนักเรียนทุน สามารถจำแนกประเภทได้ ดังต่อไปนี้
กรณีผู้สมัครขอรับทุนการศึกษา :
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียด
ข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐาน ชื่อ-นามสกุล, ชื่อเล่น, เพศ, สัญชาติ, วันเกิด, อายุ, เลขประจำตัวประชาชน, สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, จังหวัดและภาคที่อาศัยอยู่ ณ ปัจจุบัน
ข้อมูลการติดต่อ เบอร์โทรศัพท์, Email, FB Account, Line ID
ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศึกษา วุฒิการศึกษาปัจจุบัน, สถาบันการศึกษาปัจจุบัน, สาขาที่เรียน, ผลการเรียน
ข้อมูลบุคคลที่ 3 ข้อมูลของ บิดา มารดา ผู้ปกครอง สมาชิกในครอบครัว ประกอบด้วย ชื่อ-นามสกุล, สถานภาพการสมรส, เบอร์โทรศัพท์, อาชีพ, รายได้, รายจ่ายของครอบครัว, ทรัพย์สิน-หนี้สินของครอบครัว, ภาพถ่ายสมาชิกในครอบครัว และที่อยู่อาศัย โดยมูลนิธิจะถือว่าท่านได้รับความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ก่อนการให้ข้อมูลแก่มูลนิธิ
กรณีนักเรียนทุน :
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียด
ข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐาน ชื่อ-นามสกุล, ชื่อเล่น, เพศ, สัญชาติ, วันเกิด, อายุ, เลขประจำตัวประชาชน, สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาบัตรนักศึกษา, จังหวัดและภาคที่อาศัยอยู่ ณ ปัจจุบัน
ข้อมูลการติดต่อ เบอร์โทรศัพท์, Email, FB Account, Line ID
ข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลบัญชีธนาคาร
ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศึกษาและแผนการศึกษา วุฒิการศึกษาปัจจุบัน, สถาบันการศึกษาปัจจุบัน, สาขาที่เรียน, ผลการเรียน, แผนการศึกษาตามหลักสูตรมหาวิทยาลัยของนักเรียนทุน
ข้อมูลบุคคลที่ 3 ข้อมูลของ บิดา มารดา ผู้ปกครอง ประกอบด้วย ชื่อ-นามสกุล สำเนาบัตรประชาชน ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลของอาจารย์ที่ปรึกษา ประกอบด้วย ชื่อ-นามสกุล ตำแหน่ง เบอร์โทรศัพท์ โดยมูลนิธิจะถือว่าท่านได้รับความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ก่อนการให้ข้อมูลแก่มูลนิธิ
กรณีมูลนิธิได้รับ สำเนาบัตรประชาชนของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ในการยืนยันตัวตนตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครขอรับทุนการศึกษา ข้อมูลในบัตรประชาชนที่ได้รับจะมีข้อมูลศาสนา และหมู่โลหิตด้วย ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (Sensitive Data) มูลนิธิขอแจ้งให้ทราบว่า มูลนิธิไม่มีนโยบายจัดเก็บข้อมูลศาสนา และหมู่โลหิตของท่าน ยกเว้นในกรณีที่มูลนิธิได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากท่าน ทั้งนี้ มูลนิธิจะกำหนดวิธีการจัดการตามแนวทางปฏิบัติและเป็นไปตามที่กฎหมายอนุญาต

4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
มูลนิธิอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากช่องทาง ดังนี้
  1. มูลนิธิได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง โดยมูลนิธิจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากขั้นตอน ดังต่อไปนี้
    • 1.1. ขั้นตอนการยื่นใบสมัครขอรับทุน การสัมภาษณ์ รวมถึงการทำสัญญารับทุน เช่น ใบสมัครขอรับทุน (Application Form) และ/หรือ แบบฟอร์มอื่นใดที่ท่านกรอก, เอกสารประกอบการสมัคร รวมถึงเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมผ่านช่องทาง Email และโทรศัพท์
    • 1.2. จากความสมัครใจของท่านในการทำแบบสอบถาม (Survey) หรือการโต้ตอบทาง Email หรือช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ระหว่างมูลนิธิและท่าน
    • 1.3. จากความยินยอมจากท่านและ พ่อ แม่ หรือผู้ปกครองของท่าน (กรณีท่านเป็นผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์) ในการให้มูลนิธิเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

5. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ผู้สมัครขอรับทุน และนักเรียนทุน รับทราบว่าภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อการดำเนินการตามกิจกรรมการรับสมัครขอทุนการศึกษา สัญญารับทุนการศึกษา มูลนิธิสามารถจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครขอรับทุน นักเรียนทุนได้ตามฐานสัญญาทางกฎหมาย
มูลนิธิจำเป็นต้องได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างถูกต้อง ครบถ้วน และเพียงพอ เพื่อดำเนินกิจกรรมการรับสมัครขอรับทุนศึกษา การปฏิบัติตามสัญญา กฎเกณฑ์ ระเบียบภายใน และ/หรือข้อกำหนดการดำเนินงานของมูลนิธิ และ/หรือการดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากมูลนิธิไม่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างถูกต้อง ครบถ้วนและเพียงพอ อาจส่งผลให้การให้การดำเนินการใด ๆ ตามข้อตกลง หรือข้อกำหนดระหว่างมูลนิธิและท่านเกิดความล่าช้าหรือความไม่สะดวกขึ้น และในกรณีจำเป็นซึ่งเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาหรือตามกฎหมาย มูลนิธิอาจต้องปฏิเสธการดำเนินการตามข้อผูกพันใด ๆ ที่มูลนิธิมีต่อท่านแล้วแต่กรณี อย่างไรก็ตาม มูลนิธิเคารพต่อสิทธิส่วนบุคคลและจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอ่อนไหวของท่านเท่าที่จำเป็นและภายใต้วัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมาย
วัตถุประสงค์สำหรับผู้สมัครขอรับทุน
มูลนิธิดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

วัตถุประสงค์ในการดำเนินการ รายละเอียด ฐานทางกฎหมาย
การบริหารจัดการด้านรับสมัครเพื่อมอบทุนการศึกษาและการพิจารณาความเหมาะสมของผู้ที่จะขอรับทุน รับสมัครเพื่อมอบทุนการศึกษาที่ดำเนินการโดยมูลนิธิ ซึ่งผู้สมัครขอรับทุน ติดต่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลเข้ามาที่มูลนิธิด้วยตนเอง สำหรับกรณีผู้สมัครเป็นผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ผู้สมัครจะต้องได้รับความยินยอมจาก พ่อแม่ ผู้ปกครองในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่มูลนิธิ เพื่อการรับสมัครขอรับทุนด้วย การปฏิบัติตามสัญญา ความยินยอมจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง สำหรับกรณีผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
นัดสัมภาษณ์ การตรวจสอบประวัติ ตรวจสอบผลการเรียน ตรวจสอบประวัติของครอบครัว การวิเคราะห์ข้อมูล การเปรียบเทียบ การคัดเลือก และการประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกได้รับทุนการศึกษา การปฏิบัติตามสัญญา ประโยชน์อันชอบธรรม
วัตถุประสงค์สำหรับนักเรียนทุน
มูลนิธิดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

วัตถุประสงค์ในการ ดำเนินการ รายละเอียด ฐานทางกฎหมาย
1) การบริหารจัดการด้านรับสมัครเพื่อมอบทุนการศึกษาและการพิจารณาความเหมาะสมของผู้ที่จะขอรับทุน รับสมัครเพื่อมอบทุนการศึกษาที่ดำเนินการโดยมูลนิธิ ซึ่งผู้สมัครขอรับทุน ติดต่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลเข้ามาที่มูลนิธิด้วยตนเอง สำหรับกรณีผู้สมัครเป็นผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ผู้สมัครจะต้องได้รับความยินยอมจาก พ่อแม่ ผู้ปกครองในการให้ข้อมูลส่วนบุคลแก่มูลนิธิ เพื่อการรับสมัครขอรับทุนด้วย การปฏิบัติตามสัญญา ความยินยอมจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง สำหรับกรณีผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
นัดสัมภาษณ์ ตรวจสอบประวัติ ตรวจสอบผลการเรียน ตรวจสอบประวัติของครอบครัว การวิเคราะห์ข้อมูล การเปรียบเทียบ การคัดเลือก และการประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกได้รับทุนการศึกษา การปฏิบัติตามสัญญา ประโยชน์อันชอบธรรม
2) การบริหารจัดการเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการทำสัญญามอบทุน เพื่อจัดทำสัญญารับทุนการศึกษา จัดทำทะเบียนประวัตินักเรียนทุน การปฏิบัติตามสัญญา
3) การบริหารจัดการด้านทุนการศึกษา ค่าใช้จ่ายในการศึกษา บริหารจัดการในเรื่อง ทุนการศึกษา (แบบรายเทอม รายปี) ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา ค่าที่พัก ค่าใช้จ่ายรายเดือน รวมถึงผลประโยชน์ต่าง ๆ ให้กับนักเรียนทุน การปฏิบัติตามสัญญา หน้าที่ตามกฎหมาย
บริหารจัดการด้านสวัสดิการ ด้านค่ารักษาพยาบาลที่อยู่นอกเหนือจากการดูแลของสถานศึกษาที่นักเรียนทุนศึกษาอยู่ การปฏิบัติตามสัญญา หน้าที่ตามกฎหมาย
บริหารจัดการด้านสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ซึ่งมีนักเรียนทุนเป็น พรีเซ็นเตอร์ หรือปรากฎเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของสื่อประชาสัมพันธ์ของมูลนิธิ ความยินยอม
4) การติดตามผล เพื่อติดตามผลการเรียน เพื่อจัดทำรายงานสำหรับใช้ในการประชุมประจำปีของมูลนิธิ เผยแพร่รายชื่อนักเรียนทุน และ สถาบันที่กำลังศึกษา หรือจบการศึกษา ใน Website ของมูลนิธิ การปฏิบัติตามสัญญา ประโยชน์อันชอบธรรม
ตรวจสอบ สืบสวนสอบสวนพฤติกรรมทุจริต หรือขัดต่อกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับ การพิจารณา และลงโทษทางวินัย การปฏิบัติตามสัญญา หน้าที่ตามกฎหมาย ประโยชน์อันชอบธรรม
5) การบริหารจัดการงานเรื่องร้องเรียน ข้อพิพาท และคดีความ และการบริหารความเสี่ยง ดำเนินการใด ๆ เพื่อตรวจสอบ สืบสวน สอบสวน ดำเนินคดี หรือดำเนินมาตรการใด ๆ เพื่อใช้สิทธิตามสัญญาและตามกฎหมาย การปฏิบัติตามสัญญา หน้าที่ตามกฎหมาย ประโยชน์อันชอบธรรม
6) การบริหารจัดการเมื่อสิ้นสุดสัญญารับทุน เพื่อติดตามผลเกี่ยวกับการประกอบอาชีพของนักเรียนทุน เพื่อการทำสถิติ และเพื่อจัดทำรายงานของมูลนิธิในการประชุมประจำปี เพื่อจัดกิจกรรมงานรวมรุ่นของนักเรียนทุน และกิจกรรมจิตอาสาของชมรมบัณฑิตทุน ประโยชน์อันชอบธรรม

6. มูลนิธิจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
มูลนิธิมีวิธีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังนี้
  • - มูลนิธิจะจัดเก็บข้อมูลของท่านไว้ในระบบจัดเก็บเอกสาร และใน ระบบ Database โดยผ่านระบบของของฝ่ายบุคคลที่มีมาตรการการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และมีระบบป้องกันการเข้าถึงโดยมิชอบ (Access Control)
  • - มูลนิธิจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน (ข้อมูลสุขภาพ) เป็นความลับอย่างเข้มงวด และจะไม่เปิดเผยแก่ผู้ใด เว้นแต่เพื่อป้องกัน หรือ ระงับเหตุอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ หรือกรณีอื่นๆ ตามที่กำหนดไว้ใน มาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
  • - มูลนิธิจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นความลับและจะไม่เปิดเผยแก่ผู้ใด เว้นแต่ กรณีจำเป็น โดยมูลนิธิจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เฉพาะเท่าที่จำเป็น สมควรแก่กรณี และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
นอกจากนี้ มูลนิธิอาจจำเป็นต้องส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานข้อมูลเครดิตเพื่อตรวจสอบ และอาจใช้ผลการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวเพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย

มูลนิธิอาจมีความจำเป็นในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานต่างประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศ เฉพาะเท่าที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของมูลนิธิ และมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ (appropriate safeguard) และท่านสามารถบังคับใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลได้ รวมทั้งมีมาตรการเยียวยาตามกฎหมายที่จะบังคับได้ที่ดีกว่าหรือเทียบเท่ากับมาตรฐานของมูลนิธิ

7. มูลนิธิเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร และเก็บรักษาเป็นระยะเวลานานเท่าใด
มูลนิธิมีวิธีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังนี้
  1. ลักษณะการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล :
    • - กรณีได้รับข้อมูลแบบกระดาษ – มูลนิธิจะนำข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับมาในรูปแบบกระดาษมาเรียบเรียงในระบบ Database พร้อมกับสแกนเอกสารกระดาษของมูลนิธิให้อยู่ในรูปไฟล์ PDF ที่แก้ไขไม่ได้แต่สามารถนำกลับมาอ้างอิงได้โดยเนื้อความไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อดำเนินการเรียบเรียงและสแกนเป็นไฟล์ PDF เรียบร้อยแล้ว มูลนิธิจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบกระดาษในตู้เก็บเอกสารที่มีความมั่นคงปลอดภัยและจำกัดการเข้าถึงเฉพาะบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
    • - กรณีได้รับข้อมูลแบบดิจิทัล – มูลนิธิจะนำข้อมูลเหล่านั้นมาเก็บรักษาไว้บน Database ของมูลนิธิทันที ทั้งนี้ Database ของมูลนิธิมีระบบป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต (unauthorized access) และ มาตรการปกป้องรักษาที่เพียงพอ (Data protection measure)
  2. สถานที่จัดเก็บ : ระบบ Database และ ระบบเก็บเอกสารที่มีการจำกัดการเข้าถึงและมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลอย่างเหมาะสม
  3. ระยะเวลาจัดเก็บ : มูลนิธิจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่เหมาะสมและจำเป็น และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่
    • - กรณีผู้สมัครที่ไม่ได้รับการคัดเลือก มูลนิธิจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ ตั้งแต่วันที่เปิดรับสมัคร จนถึงเดือนกรกฎาคมของปีเดียวกัน เพื่อเป็นหลักฐานว่ามูลนิธิได้พิจารณาคัดเลือกอย่างยุติธรรมแล้ว จากนั้น มูลนิธิ จะทำการลบทำลายข้อมูลของท่านต่อไป
    • - กรณีนักเรียนทุน มูลนิธิจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตลอดระยะเวลาของสัญญารับทุนการศึกษา และเมื่อสัญญารับทุนการศึกษาสิ้นสุดลง ไม่ว่าด้วยเหตุใด มูลนิธิจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปอีก เป็นระยะเวลา 3 ปี เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิด ข้อพิพาทภายในอายุความตามที่กฎหมายกำหนด
  4. เมื่อพ้นระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ได้กำหนดไว้เบื้องต้นแล้ว หรือมูลนิธิไม่มีสิทธิหรือไม่สามารถอ้างฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแล้ว มูลนิธิจะดำเนินการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ด้วยวิธีการ ลบ หรือ นิรนาม ข้อมูลภายใน 30 วันนับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลาจัดเก็บและประมวลผล

8. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่างๆ ภายในมูลนิธิฯ และบุคคลหรือหน่วยงานภายนอก ดังนี้
  1. ภายในมูลนิธิ
    ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่างๆ ภายในมูลนิธิฯ เฉพาะที่เกี่ยวข้องและมีบทบาทหน้าที่เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์เท่านั้น โดยบุคคลหรือทีมงานเหล่านี้ของมูลนิธิ จะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามความจำเป็นและเหมาะสม
    • - เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารงานบุคคล หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่นๆ เฉพาะที่เกี่ยวข้อง โดยกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลตามบทบาทหน้าที่ที่รับผิดชอบ
    • - ผู้บริหารของมูลนิธิ ที่มีความรับผิดชอบในการบริหารหรือตัดสินใจเกี่ยวกับท่าน หรือเมื่อต้องเกี่ยวข้องกับขั้นตอนทางด้านงานทะเบียนนักเรียน
    • - ฝ่ายหรือทีมสนับสนุนต่าง ๆ เช่น ฝ่ายบัญชี, ฝ่ายธุรการ, กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น
  2. ภายนอกมูลนิธิ
    ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับองค์กรภายนอก ดังนี้
    1. สถานศึกษาที่นักเรียนทุนได้ทำการศึกษาต่อ เพื่อให้ทางสถานศึกษาดูแลช่วยเหลือนักเรียนทุนในเรื่องเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเบิกค่าใช้จ่ายจากทางมูลนิธิ รวมถึง การกำกับดูแลด้านการเรียนและพฤติกรรมของนักเรียนทุน เพื่อให้สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ

9. สิทธิของเจ้าของข้อมูล
ท่านมีสิทธิในการดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้
  1. สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to withdraw consent)
    หากท่านได้ให้ความยินยอมให้มูลนิธิเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลท่าน ท่านมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับมูลนิธิ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อท่าน เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษา/สอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม
  2. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right of Access)
    ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และขอให้มูลนิธิทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึง ขอให้มูลนิธิเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อมูลนิธิได้ ทั้งนี้ เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของท่าน มูลนิธิต้องขอให้ท่านพิสูจน์ตัวตนของท่านก่อนจะให้ข้อมูลตามที่ท่านขอ
  3. สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to rectification)
    ท่านมีสิทธิในการขอให้มูลนิธิแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  4. สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to erasure)
    ท่านมีสิทธิในการขอให้มูลนิธิลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเห็นว่ามูลนิธิหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอเพิกถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูล
  5. สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to restriction of processing)
    ท่านมีสิทธิในการขอให้มูลนิธิระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านชั่วคราว ในกรณีที่มูลนิธิอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำร้องขอใช้สิทธิแก้ไขหรือขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือกรณีที่มูลนิธิหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านขอให้มูลนิธิระงับการใช้แทน
  6. สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to data portability)
    ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่มูลนิธิได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้มูลนิธิส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่สามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค ทั้งนี้ มูลนิธิอาจขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านตามข้อนี้ ตามที่มูลนิธิเห็นสมควร
  7. สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to object)
    ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้น ทำขึ้นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมูลนิธิ โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล เว้นแต่เป็นกรณีที่มูลนิธิสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยัน การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมายตามแต่กรณี
ท่านสามารถติดต่อมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของมูลนิธิได้ เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้ รายละเอียดการติดต่อ มีดังนี้

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ชื่อ นางสาวพัชร์สิตา เพชรประดับ
เบอร์โทร 0-2669-9711
Email foundation.damrongchaitham@gmail.com

มูลนิธิดำรงชัยธรรม
เลขที่ 50 ถนนสุขุมวิท 21 อโศก แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
ท่านสามารถ download แบบฟอร์มการใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น ที่หน้า Website www.damrongchaitham.com/dm-web
และส่งแบบฟอร์ม พร้อมเอกสารยืนยันตัวตนตามที่ระบุในแบบฟอร์มมายังมูลนิธิ เพื่อยื่นคำร้องขอดำเนินการใช้สิทธิตามข้างต้น

ทั้งนี้ ท่านไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในการดำเนินการตามสิทธิข้างต้น
โดยมูลนิธิจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องของท่านภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มูลนิธิได้รับคำร้องขอดังกล่าว

10. รายละเอียดผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
ชื่อ มูลนิธิดำรงชัยธรรม
สถานที่ติดต่อ เลขที่ 50 ถนนสุขุมวิท 21 อโศก แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
ช่องทางการติดต่อ โทรศัพท์ : 02- 669-9711, 9615
Email: foundation.damrongchaitham@gmail.com

11. รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ชื่อเจ้าหน้าที่ นางสาวพัชร์สิตา เพชรประดับ
สถานที่ติดต่อ มูลนิธิดำรงชัยธรรม
เลขที่ 50 ถนนสุขุมวิท 21 อโศก แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
ช่องทางการติดต่อ โทรศัพท์ : 02-669-9711
Email: foundation.damrongchaitham@gmail.com

12. รายละเอียดหน่วยงานกำกับดูแล
ในกรณีที่มูลนิธิหรือลูกจ้างหรือพนักงานของมูลนิธิฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับดูแล ตามรายละเอียดดังนี้
ชื่อ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สถานที่ติดต่อ สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ช่องทางการติดต่อ โทรศัพท์ : 02-142-1033
Email : pdpc@mdes.go.th
ระยะเวลาในการติดต่อ / ร้องเรียน เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป

13. การเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม
มูลนิธิจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ มูลนิธิมีสิทธิเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิเก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับต่อไปได้ตามวัตถุประสงค์เดิม โดยหากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้มูลนิธิ เก็บรวมรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไปภายหลัง พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับแล้ว ท่านสามารถแจ้งยกเลิกความยินยอมได้ตามช่องทางการใช้สิทธิเพิกถอนความยินยอมตามนโยบายฉบับนี้ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ และการเพิกถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อท่าน ดังนั้น เพื่อประโยชน์ของท่าน ท่านจึงควรศึกษา/สอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม

14. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ Website อื่น
นโยบายความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ใช้เฉพาะสำหรับการให้บริการผ่าน Website ของมูลนิธิเท่านั้น หากท่านได้กด Link ไปยัง Website อื่น (แม้จะผ่านช่องทางใน Website ของมูลนิธิก็ตาม) ท่านจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏใน Website นั้นๆ แยกต่างหากจากของมูลนิธิ

15. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
มูลนิธิจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มูลนิธิจะแจ้งให้ท่านทราบด้วยการ update ข้อมูลลงใน website ของมูลนิธิโดยเร็วที่สุด ปัจจุบัน นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ได้รับการทบทวนปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 12 พฤษภาคม 2565