ถ้าหากเราไม่ได้ทุนของมูลนิธิดำรงชัยธรรม เราก็คงต้องกู้ กยศ. ต้องหาคนช่วยค้ำประกัน หรืออาจจะต้องไปกู้หนี้ยืมสินนอกระบบเป็นแน่

“พลอย  พลอยไพลิน ศิริสม”
นักเรียนทุน รุ่นที่ 17/2558

⏩ เล่าเรื่องราวย้อนอดีต

       ก่อนที่จะได้รับทุนจากมูลนิธิดำรงชัยธรรม  ถ้าให้เล่าย้อนไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนที่ยังเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 อยู่นั้น เป็นช่วงที่ชีวิตเครียดกับเรื่องสอบเข้ามหาวิทยาลัยพอสมควร เพราะมันคือความฝัน คือโอกาส คือจุดเปลี่ยนเส้นทางชีวิต คิดไม่ตกเลยว่าถ้าเราไม่สามารถสอบเข้าคณะและมหาวิทยาลัยที่เราใฝ่ฝันไว้ได้จะเป็นอย่างไร จะต้องไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเปิดหรือเปล่า ซึ่งมุมมองในตอนนั้นของเราแคบมาก อีกทั้งเราเป็นกัปตันในรายการ “BRAND Admission Reality 6” ของเว็บไซต์ Dek-D.com ซึ่งเป็นรายการ Reality ที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของเด็ก ม.6 ที่กำลังจะสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัย มีน้อง ๆ นักเรียนที่ดูเราอยู่มากมายทั้งให้กำลังใจและช่วยลุ้นช่วยเชียร์ หวังให้เราติดคณะตามภารกิจทำให้เราแอบรู้สึกกดดันอยู่บ้าง แต่นอกจากเรื่องสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้วเรื่องที่เป็นกังวลไม่น้อยกว่า นั่นคือเรื่องค่าใช้จ่ายที่พอคิด ๆ และหาข้อมูลดูแล้วค่าบำรุงการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยก็แพงมิใช่น้อย อีกทั้งครอบครัวของเราก็ไม่ได้มีฐานะหรือมีเงินสำรองเอาไว้ เพราะพ่อกับแม่มีอาชีพรับจ้างหาเช้ากินค่ำมีเงินแค่พอประทังชีวิตและเลี้ยงลูก ๆ ในแต่ละวันก็เท่านั้น ตอนนั้นคิดวางแผนแล้วว่าขอให้ครูคนไหนค้ำประกันให้ดี เราคงต้องกู้ กยศ. แน่ ๆ แล้วถ้ากู้ กยศ. ไม่ผ่านจะไปกู้ยืมที่ไหนดีก็ต้องเป็นภาระพ่อแม่อีก เพราะตลอดเวลาที่เรียน ม.1-6 นั้นเราประพฤติปฏิบัติตนเป็นนักเรียนที่ดีมาโดยตลอด จนได้รับความอนุเคราะห์จากคุณครูในโรงเรียนช่วยเหลือเรื่องชุดนักเรียนและทุนการศึกษา และเราก็ตั้งปณิธานแล้วว่าเราจะไม่เอาเรื่องการศึกษาของเรามาเป็นภาระของพ่อแม่ ตอนนั้นก็แอบเครียดเหมือนกันถ้าหากไม่มีเงินจะเรียนมหาวิทยาลัยได้อย่างไร…แต่แล้วด้วยความโชคดีหรือฟ้าประทานก็ไม่รู้ทำให้เราไปพบกับหนังสือของมูลนิธิดำรงชัยธรรมที่ส่งมาให้ทางโรงเรียนที่อยู่ในห้องแนะแนวด้วยความบังเอิญ ซึ่งตอนนั้นเราตั้งใจไปหาโควต้ามหาวิทยาลัยที่ห้องแนะแนวพอดี เราเลยลองอ่านเกณฑ์การรับสมัครและคุณสมบัติของนักเรียนทุนจึงตัดสินใจส่งผลงานไปเพื่อขอรับการคัดเลือก และแล้วก็ถึงวันประกาศผลเราก็ได้เป็นหนึ่งในนักเรียนทุนของมูลนิธิดำรงชัยธรรม เราดีใจมากครอบครัวเราเองก็ดีใจมาก ๆ เช่นกัน ทุกคนในครอบครัวเลยคลายความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของเราลงได้ ถ้าหากเราไม่ได้ทุนของมูลนิธิดำรงชัยธรรม เราก็คงต้องกู้ กยศ. ต้องหาคนช่วยค้ำประกัน หรืออาจจะต้องไปกู้หนี้ยืมสินนอกระบบเป็นแน่

 ความรู้สึกครั้งแรก ตอนที่เข้ามาเป็นนักเรียนทุน ตอนนั้นรู้สึกอย่างไร…?

       ย้อนกลับไปเมื่อตอนเป็นนักเรียนทุนใหม่ ๆ ตอนนั้นรู้สึกดีใจมากที่เราได้ทุนการศึกษาเรียกได้ว่าเป็นทุนที่ครบวงจรมากได้ทั้งค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายรายเดือน ค่าที่พัก แถมยังไม่ต้องใช้ทุนคืนอีกต่างหาก คือประเสริฐมากจริง ๆ แต่ทว่า ตอนแรกเข้ามูลนิธิต้องมีการส่งเอกสารยืนยันมากมายทำให้เรารู้สึกยุ่งยากมากเพราะตอนนั้นตัวเราไม่มีคอมพิวเตอร์ส่วนตัวใช้จะใช้ทีก็ต้องไปที่ร้านคอมหรือยืมเพื่อนทำให้รู้สึกลำบาก อีกอย่างในเรื่องการอยู่หอพักเหมือนรู้สึกว่าทางมูลนิธิจะให้อยู่หอพักในของมหาวิทยาลัยซึ่งเราเข้าใจเจตนาของมูลนิธิว่าเป็นหอพักที่ราคาถูกจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายและปลอดภัย ในตอนนั้นตามความคิดของเรา คือรู้สึกเหมือนถูกจำกัดสิทธิ์และมีขอบเขตมากเกินไป เพราะหอพักนอกมหาวิทยาลัยที่ราคาถูกปลอดภัยและสะดวกกว่าก็มีเช่นกัน แต่ตอนนั้นเราก็ได้รับอนุญาตให้อยู่หอพักนอกเนื่องจากเพื่อนที่จะพักอยู่ด้วยกันไปจองหอไว้ก่อนที่เราจะได้รับทราบระเบียบของทุนก่อนแล้ว แต่หลังจากนั้นเราและเพื่อนแยกกันอยู่ เราก็ต้องกลับไปอยู่ที่หอพักในตามระเบียบทุนและได้รับอิสระออกมาหอพักนอกอีกครั้งเนื่องจากหมดปีการศึกษาต้องจองหอในใหม่ และหอพักในก็เต็ม ที่รู้สึกว่าเป็นการจำกัดสิทธิ์และอิสระเพราะทางคณะมีกิจกรรมเยอะมาก ซึ่งเราเองก็เป็นเด็กกิจกรรมจึงไม่สะดวกที่จะอยู่หอพักในสักเท่าไหร่ เพราะหอพักในมีเวลาเปิด-ปิด กิจกรรมบางครั้งก็เกินเวลาหอพักปิดทำให้ไม่สามารถเข้า-ออกหอพักได้ และต้องไปอาศัยอยู่หอเพื่อนข้างนอกจึงไม่สะดวกเท่าที่ควร

⏩ มีความประทับใจ…ต่อการเข้ามาเป็นนักเรียนทุนของมูลนิธิ?

       ความประทับใจที่ได้เข้ามาเป็นนักเรียนทุนก็คือพี่เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ ประทับใจในความเป็นกันเองให้ความรู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวที่สามารถพูดคุยหรือปรึกษาปัญหาได้ แม้ว่าพี่เจ้าหน้าที่จะมีงานเยอะและมีนักเรียนทุนที่ต้องดูแลมากมายแต่พี่เจ้าหน้าที่ก็ยังใส่ใจเราให้คำปรึกษาเราได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่มีแค่มุมใจดี มุมดุก็มี บางครั้งที่เราโดนดุเพราะส่งเอกสารไม่ตรงเวลาบ้างเนื่องจากการทำงานช้าเป็นคนที่ทำอะไรช้าหรือบ่อยครั้งที่เราส่งเอกสารไม่ครบบ้างเนื่องจากความไม่รอบคอบจนทำให้โดนดุและเคยโดนลงโทษคือถูกระงับเงินเดือนในเดือนนั้น ตอนนั้นก็แอบเคืองและน้อยใจเพราะมันเป็นครั้งแรกของเราสำหรับกฎใหม่แบบนั้นทำไมถึงไม่ตักเตือนก่อน ทำไมถึงลงโทษโหดร้ายขนาดนั้น ซึ่งเดือนนั้นก็ทำเราเดือดร้อนเลยทีเดียว จากนั้นก็ทำให้เราค่อย ๆ ปรับปรุงตัวทำให้เราต้องพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเพราะเราเป็นคนที่ทำงานช้าและมักจะหลงลืมบ่อย ๆ ก็ฝึกให้เราทำงานให้เร็วขึ้นมีวินัยและความรับผิดชอบมากขึ้น จะว่าไปแล้วในความโหดร้ายก็ยังมีเรื่องดี ๆ อยู่

⏩ สิ่งที่อยากฝากอยากบอกถึงน้องรุ่นหลัง ๆ

       สิ่งที่อยากฝากถึงน้อง ๆ รุ่นหลัง น่าจะเป็นเรื่องการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย พี่อยากบอกว่าอยากให้น้อง ๆ ใช้ชีวิตช่วงนี้ให้เต็มที่ไม่อยากให้เรียนเพียงอย่างเดียว อยากทำอะไรก็ทำมหาวิทยาลัยมีกิจกรรมอะไรที่เราสนใจก็เข้าร่วมได้เลยโดยไม่ต้องลังเล พยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานทำกิจกรรมให้ได้มากที่สุด

       จากคำกล่าวที่ว่า “การเรียนทำให้คนมีงานทำ กิจกรรมทำให้คนทำงานเป็น” คำกล่าวนี้เป็นจริงมาก ๆ เมื่อเราเติบโตขึ้นพอที่จะต้องออกไปเผชิญโลกภายนอก เราจะรู้เลยว่าประสบการณ์การทำงานทำกิจกรรมต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งที่ใช้ได้เสมอ หากเราแค่เรียนเก่งแต่ทำอะไรไม่เป็นเลยเราก็จะลำบากมากแต่กลับกัน หากเราเรียนไม่เก่งแต่เราทำงานเก่งมาก งานต่าง ๆ ก็จะออกมาดีและประสบความสำเร็จได้ง่าย

       อยากจะแชร์ประสบการณ์ของพี่เอง ซึ่งพี่เคยไปสมัครทำพาร์ทไทม์ตอนที่ยังเรียนอยู่ปี 3 ตอนนั้นเรียนหนักมากงานเยอะมากแต่เพราะอยากได้เงินอยากหาเงินด้วยตนเองบ้างก็เลยไปลองสมัคร ตอนนั้นผู้จัดการเขาไม่ได้ถามถึงความรู้ในห้องเรียนเลย สิ่งที่เขาถามคือประสบการณ์ทำงานทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัย เมื่อผ่านสัมภาษณ์ก็ให้ทดลองงานตอนแรกเขาบอกว่าให้ลอง 2 เดือนก่อนว่าโอเคไหมแล้วเขาจะให้เสื้อพนักงานโดยที่เราไม่ต้องเสียค่าเสื้อนั่นหมายความว่าเขารับเราเป็นพนักงานจริง ๆ แล้ว พอทำงานได้สัปดาห์แรกเขาก็ให้เสื้อมาเลยเพราะเขาเห็นทักษะการขายของการพูดโน้มน้าวลูกค้าซึ่งเป็นทักษะและความกล้ามาจากการที่เราเป็นพิธีกรของมหาวิทยาลัย พี่เลยคิดว่าการที่เราได้งานส่วนหนึ่งมันก็มาจากประสบการณ์การทำกิจกรรมของเรานั่นเอง

       สุดท้ายอยากบอกว่า เรียนได้แต่ก็ต้องทำงานให้เป็น และทำกิจกรรมได้แต่ก็ต้องไม่ทิ้งการเรียน เราก็จะกลายเป็นคนที่ทั้งเรียนได้และทำงานเป็นอย่างมีคุณภาพ