ถ้าไม่มีโอกาสได้รับทุนจากมูลนิธิหนูคงไม่มาถึงทุกวันนี้ได้ โอกาสครั้งนี้ทำให้หนูมีโอกาสและพร้อมสำหรับทุกอย่าง
“นน นนทกาล ยาวาระยะ”
นักเรียนทุน รุ่นที่ 15/2556
⏩ เล่าเรื่องราวย้อนอดีต
ก่อนที่จะได้รับทุนจากมูลนิธิดำรงชัยธรรม ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว ก่อนที่จะมีโอกาสได้รับทุนจากมูลนิธิดำรงชัยธรรม ตอนนั้นชีวิตเหมือนอยู่ในช่วงรอยต่อและการตัดสินใจว่าจะไปอย่างไรกับชีวิตตัวเองดี ครอบครัวค่อนข้างที่จะลำบากพ่อกับแม่แยกกันอยู่ และมีพี่น้องเยอะ ทั้งหมด 7 คน ทำให้แม่มีภาระหน้าที่อย่างหนัก ที่ต้องรับผิดชอบครอบครัว ตอนนั้นมีพี่ชาย หนูและน้อง ที่กำลังเรียนอยู่ พี่ชายกำลังจะขึ้นระดับ ปวส. ส่วนตัวหนูกำลังจะขึ้นระดับมัธยมปลายส่วนน้องชายกำลังเข้าเรียนอนุบาล ตอนนั้นทางบ้านจะส่งให้หนูไปอยู่โรงเรียนประจำ เป็นทางเลือกของการเรียนต่อของหนู เพื่อลดค่าใช้จ่ายในหลาย ๆ อย่าง ของครอบครัว แต่ถ้าหากหนูไป พี่ชายคงต้องหยุดเรียนเพราะไม่มีใครอยู่ช่วยงานแม่ที่บ้าน ตอนนั้นพี่ชายเกือบจะหยุดเรียน เพื่อให้หนูได้ไปเรียนต่อ ตัวเองจะได้อยู่ช่วยแม่ที่บ้าน แต่ทุกอย่างพลิกผันจนมีวันนึงคุณครูที่สอนหนูตอนที่อยู่ประถม ครูมาหาที่บ้านพร้อมกับความตื่นอกตื่นใจ ครูพูดออกมาคำเดียวว่า เธอมีคุณสมบัติทุกอย่างเธอลองอ่านดูแล้วไปคุยกับครูที่โรงเรียนนะ(มัธยมต้น) หลังจากวันนั้นเหลือเวลาแค่ไม่กี่วันก็จะหมดเขตรับสมัครทุน หนูรีบเข้าไปปรึกษากับคุณครูท่านนึงแกก็เห็นด้วยและสนับสนุนหนูทุกอย่าง จนในที่สุดทันส่งเอกสารทุกอย่างในการสมัครขอรับทุนการศึกษา และทุกอย่างก็เป็นไปตามที่หนูตั้งใจและภาวนาเอาใว้ ตั้งแต่ประกาศผลคัดเลือกรอบแรก จนรอบสุดท้ายยังมีชื่อหนูมาตลอด เป็นความโชคดีของหนูทีผ่านพ้นช่วงชีวิตนั้นมาได้แม้จะลำบากขนาดไหน แต่มันผ่านมาได้เพราะความมานะ อดทน อดกลั้น หมั่นเพียร ไม่ยอมแพ้และไม่ย่อท้อ สู้จนถึงวินาทีสุดท้ายเพื่อที่จะไขว่คว้าโอกาสให้ตัวเองให้ได้มากที่สุด และโอกาสทางการศึกษาที่เป็นความหวังของตัวเองและครอบครัว
⏩ ความรู้สึกครั้งแรก ตอนที่เข้ามาเป็นนักเรียนทุน ตอนนั้นรู้สึกอย่างไร…?
เป็นความรู้สึกที่ดีใจที่สุด ไม่ใช่เพียงหนูคนเดียวแต่เป็นการรู้สึกตื่นเต้นและดีใจทั้งครอบครัว เหมือนเห็นทางสว่างในชีวิตชัดขึ้น เพราะได้มีโอกาสที่จะทำตามความฝันของตัวเองและครอบครัว มันอธิบายแทบไม่ถูกจากที่เคยรู้สึกหมดหวังและทำอะไรไม่ได้ แต่สุดท้ายกลับมาลุกขึ้นสู้ ในเมื่อมีโอกาสและจะทำให้ดีที่สุด
⏩ มีความประทับใจ…ต่อการเข้ามาเป็นนักเรียนทุนของมูลนิธิ?
อย่างแรกคือวิสัยทัศน์ของมูลนิธิ ของคุณพ่อและผู้ใหญ่ทุกท่านที่มอบโอกาสดี ๆ ให้เด็ก ๆ ที่ด้อยโอกาสทางศึกษา อีกทั้งการบริหารจัดการทุกอย่างที่เป็นแบบแผนรวมไปถึงการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดูแลนักเรียนทุนที่ดูแลนักเรียนทุนได้อย่างดี และชี้แนะแนวทางให้แก่เหล่านักเรียนทุนได้อย่างดี อีกทั้งพี่ ๆ บัณฑิตทุน พี่ ๆ เพื่อน ๆ และน้อง ๆ นักเรียนทุนทุกคน ทุกคนเป็นคนเก่งและดี ที่สามารถนำมาเป็นแบบอย่างได้ในชีวิต ทุกคนช่วยเหลือและคอยเป็นที่ปรึกษาให้กันและกัน โชคดีของหนูคือการได้มีโอกาสเข้ามายืนจุดนี้ จุดรวมพลของคนโตดี
⏩ สิ่งที่อยากฝากอยากบอกถึงน้องรุ่นหลัง ๆ
มีโอกาสก็ทำมันให้สุด ไม่มีอะไรจะเสีย แค่ทำทุกอย่างให้เต็มที่ รู้ถูก รู้ผิด ถูกทำต่อไปให้ดีขึ้นจนสุด อะไรที่ผิดแค่ปรับปรุงให้มันถูกให้มันดีและไม่ทำผิดซ้ำ ๆ รู้จักตัวเองให้มากที่สุด อยากทำอะไร ชอบอะไร ทำเลยวันนี้ ไม่ต้องรอช้า แล้วทุกอย่างที่เราทำมันจะทำให้เราโตขึ้น และมีศักยภาพมากพอที่จะออกสู่สังคมและเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ พวกเรามีโอกาสและโชคดีกว่าคนอีกตั้งมากมายเราต้องทำให้สมกับที่เราได้รับโอกาส