“ หนูสัญญาจากโอกาสที่ได้ หนูจะส่งต่อ ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม
ในฐานะผู้เคยได้รับไปสู่การเป็นผู้ให้ จะเป็นคนที่โตได้แล้วก็จะโตดีด้วยค่ะ ”
อัญ อัญชลี คำฝอย
นักเรียนทุน รุ่นที่ 14/2555
ก่อนได้รับทุน
ครอบครัวมีฐานะยากจน ตอนเด็กเลยไม่ได้เรียนอนุบาล แล้วไปช่วยแม่ขายพวงมาลัยที่เกาะสมุย ประกอบกับพ่อก็ไม่ค่อยได้ดูแลเพราะพ่อมีอีกบ้านที่ต้องดูแล พอแม่มีเงินเก็บบ้างเลยกลับมาบ้านที่พิจิตรแล้วก็พาเข้า ป.1 เวลาเดินไปเรื่อยๆ จนได้มีโอกาสสอบเข้าเรียน ม.ต้น สอบได้ที่โรงเรียนประจำจังหวัด ยิ่งมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น แต่แม่ก็ยอมที่จะเหนื่อย เพราะเห็นว่าเรื่องเรียนเป็นเรื่องสำคัญ อยากให้ลูกมีอนาคตที่ดี
ช่วง ม.ต้น ครอบครัวค่อนข้างมีปัญหาด้านการเงินมากขึ้น เพราะเพิ่งเริ่มขายของ ต้องเช่าห้องแถวของวัดโพธิ์ประทับช้าง ประกอบกับ
แม่หาเลี้ยงเพียงคนเดียว ต้องดูแลลูก 2 คน แล้วก็ยายที่อายุมากแล้ว ทั้งยังมีหนี้จากกองทุนกู้ยืมหมู่บ้านที่กู้มาใช้ในการลงทุนค้าขาย และส่งลูกเรียน ช่วงที่ก่อนจะได้รับทุนเป็นช่วงที่กำลังจะขึ้น ม.ปลาย ซึ่งมีการสอบเข้าห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์แล้วสอบติด แต่ห้องนี้จะมีค่าเทอมพิเศษ ซึ่งห้องเรียนทั่วไปไม่มี ก่อนได้รับทุน แม่เลยตัดสินใจยืมเงินญาติเพื่อให้ได้เรียนห้องนี้
หลังได้รับทุน
จากครอบครัวที่ไม่รู้ว่าจะส่งลูกสองคนกับดูแลยายที่อายุมากแล้วไหวไหม มีหนี้สินที่กู้ยืมมาเพื่อค้าขายและส่งลูกเรียน จากที่จะไม่มีโอกาสเรียนห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมา ก็มีโอกาสได้เรียนทำให้ได้มีโอกาสทางการศึกษาโดยที่ไม่มีข้อจำกัด ได้รับสิ่งที่ดีที่สุดที่โรงเรียนมี ได้โอกาสไปแข่งขันมากมาย เรื่องเรียนได้เรียนมหาวิทยาลัยมหิดล จนตอนนี้จะจบปริญญาตรีแล้ว โดยไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายเลย ทำให้แม่มีโอกาสได้เอาเงินที่จะต้องมาลงทุนกับอัญไปให้น้องชายได้เรียนดีเหมือนกัน จากที่ต้องส่งเรียนสองคนก็เหลือแค่คนเดียว แบ่งเบาภาระลงมาได้ ส่วนเรื่องหนี้ แม่ก็มีการค้าขายที่ดีขึ้นทำให้ทะยอยใช้หนี้ไปบ้างแล้ว ถึงจะไม่หมด แต่ก็ลดลงมาก นอกจากแม่จะเบาภาระเรื่องเงินแล้ว พ่อก็ได้กลับมาอยู่ด้วยช่วยทำงานที่บ้านได้เยอะเลย อีกเรื่องก็คงเป็นเรื่องสุขภาพของแม่กับยาย หลังจากที่ขายของค่อนข้างอยู่ตัว แม่ไม่ต้องทำงานหนักมาก เมื่อก่อนต้องไปวิ่งแย่งของถูกมาขายในร้านทำเอาข้อเข่าเสื่อมไปเหมือนกัน พอตอนนี้ก็ไม่ต้องไปแย่งขนาดนั้นแล้ว ได้มีโอกาสดูแลตัวเองมากขึ้น หนูอยากบอกว่าขอบพระคุณมากค่ะ สำหรับโอกาสในการสนับสนุนทางการศึกษา ให้หนูได้มีโอกาสเรียนเท่ากับคนทั่วไป ถ้าไม่ได้รับโอกาสหนูคงไม่มีวันได้เป็นเด็กที่กำลังจะจบปริญญาตรี ในคณะที่อยากเรียน มหาวิทยาลัยที่อยากเข้า จนทุกวันนี้หนูได้เป็นว่าที่บัณฑิตแล้วนะคะ แถมยังได้เป็นความภาคภูมิใจของพ่อแม่ด้วย โอกาสนี้มันไม่ได้มีผลแค่กับหนูคนเดียวนะคะ น้องชายของหนูทุกวันนี้ก็มีโอกาสได้เรียนด้วย หนูไม่รู้จะขอบคุณยังไงดี หนูสัญญาจากโอกาสที่ได้ หนูจะส่งต่อไม่ว่าจะทางใดก็ตาม ในฐานะผู้เคยได้รับไปสู่การเป็นผู้ให้ จะเป็นคนที่โตได้แล้วก็จะโตดีด้วยค่ะ