“ สิ่งที่หนูมีความสุขในชีวิต คือ หนูได้เห็นรอยยิ้มของพ่อกับแม่อีกครั้ง
ทุกสิ่งทุกอย่างที่หนูมีในวันนี้นั้น หนูพูดได้เต็มปากเลยว่า ได้มาจากมูลนิธิดำรงชัยธรรมเกือบทั้งหมด ”
ไอซ์ ดาราวรรณ แจ่มคล้าย
นักเรียนทุน รุ่นที่ 14/2555
ก่อนได้รับทุน
ชีวิตแสนลำบากมากไม่มีเงินจะเรียนต่อ ไม่มีเงินใช้ในชีวิตประจำวัน ชีวิตมืดแปดด้านหาทางออกไม่เจอร้องไห้ทุกวัน พ่อกับแม่ในสมัยนั้น
ยังทำงานทั้งคู่ โดยพ่อขับวินมอเตอร์ไซค์ ส่วนแม่รับจ้างเป็นลูกจ้างโรงงานทอผ้าเล็กๆ รายได้ก็ได้แค่ค่าแรงขั้นต่ำ ส่วนใหญ่เงินใช้จ่ายภายในบ้านตอนนั้นจะได้จากส่วนของแม่ เนื่องจากเงินรายได้ที่ได้จากพ่อ ต้องเอามา ซ่อมรถอยู่บ่อยๆ เพราะรถคันที่ใช้นั้นมันแก่แล้ว จนตัดสินใจซื้อรถมาอีกคันก็ต้องเอาเงินส่วนนั้น มาผ่อนรถแทน อาหารการกินแต่ละมื้อก็ต้องกินประหยัดที่สุด
ตอนนั้นหนูเองก็ทำอะไรไม่ได้เลยเพราะอายุยังไม่ถึง 18 ปี ไม่มีที่ไหนเขารับเข้าทำงาน ได้แต่ช่วยทำเรื่องงานบ้านแทน และมีอยู่ช่วงหนึ่ง
อยู่ๆ พ่อก็ป่วยหนักมาก เจอแดดร้อนก็หน้ามืดเป็นลมอยู่บ่อยๆ จนกระทบการทำงาน ในตอนนั้นที่ต้องหยุดไปกลายเป็นแม่ต้องหารายได้
มาใช้จ่ายในครอบครัวเต็มๆ บ่อยครั้งเลยที่มีเงินไปโรงเรียนไม่พอกินข้าวกลางวัน เดินกลับบ้านบ้างก็มี เคยคิดถึงขั้นไม่อยากเรียนต่อแล้ว มันทั้งเหนื่อยทั้งท้อ ทั้งอิจฉาเพื่อน ที่เขามีที่ชีวิตที่ดีกว่าเรา
หลังได้รับทุน
เงินทุนช่วยชีวิตหนูมาก การได้เงินทุนมาทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นมาช่วยหมุนเงินที่ต้องใช้ในแต่ละเดือน สำหรับคนอื่นๆ อาจมองว่าน้อยไป
แต่สำหรับหนูเงินที่ได้ในแต่ละเดือนนั้น มันคือเงินจำนวนมากที่สามารถนำมาลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ รวมถึงการไม่ต้องรบกวนพ่อกับแม่ ที่ต้องมาคอยหาเงินให้กับหนูมาเรียนเลย ค่าเทอมเราก็ไม่ต้องกังวล เนื่องจากทางมูลนิธิฯ ออกให้ และให้ใช้ในแต่ละเดือน ก่อนหน้านี้ รายได้จากแม่และพ่อรวมกันแล้วไม่ถึงหลักหมื่น ต้องใช้จ่าย 4 คน และแน่นอนว่าไม่สามารถอยู่ได้ถึงเดือน ต้องไปกู้ไปหยิบยืมมา ทำให้เป็นหนี้เป็นสิน หนูเองก็ต้องไปทำงานหนักมากๆ เพื่อหาเงินมาใช้จ่าย แต่พอได้รับเงินทุนเข้ามาช่วยเหลือจากที่ต้องยืมเขาก็แทบจะไม่ต้องใช้เลย หนูก็ทำงานน้อยลง มีเวลาทำอย่างอื่นเพิ่มขึ้น ได้เรียน ได้มีอนาคต ส่วนน้องหนูเองค่าเทอมก็ไม่แพงมากอยู่ที่ประมาณ 1,000-2,000 บาท ซึ่งแตกต่าง จากค่าเทอมส่วนของหนูที่เป็นหลักหมื่น สิ่งที่หนูมีความสุขในชีวิต คือ หนูได้เห็นรอยยิ้มของพ่อกับแม่อีกครั้ง ทุกสิ่งทุกอย่างที่หนูมีในวันนี้นั้น หนูพูดได้เต็มปากเลยว่า ได้มาจากมูลนิธิดำรงชัยธรรมเกือบทั้งหมดในชีวิตที่มีมูลค่าในขณะนี้ หนูอยากขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ สำหรับสิ่งที่ท่านมอบให้ ท่านเป็นเหมือนพระเจ้าของหนู ท่านเสกทุกอย่างให้หนู ท่านคือผู้มีพระคุณที่หนูจะไม่มีวันลืม ขอบคุณที่ช่วยดึงหนูขึ้นมาจากเหวของความลำบาก ขอบคุณค่ะ
