10ข้อที่คนรักสัตว์อาจไม่เคยรู้ แต่ควรต้องรู้ก่อนจะสายเกินไป ต้องรีบรู้ รีบรักษา
1. โดนกัดเป็นแผล ควรรีบพามาตั้งแต่วันแรก
เห็นเป็นแผลรู้เขี้ยวนิดเดียวอย่าคิดว่าไม่เป็นอะไร เพราะรูเล็กๆที่เห็นนั้น อาจเป็นปากปล่องภูเขาไฟที่จะระเบิดในไม่ช้า… แผลที่ถูกสัตว์กัดมักเต็มไปด้วยเชื้อโรคจำนวนมากทั้งจากน้ำลายของสัตว์ประกอบกับความเสียหายของเนื้อเยื่อที่ค่อนข้างมาก บางครั้งเจ้าของเห็นว่าเป็นแผลนิดเดียวแล้ววันดีคืนดีก็กลายเป็นฝี แตกโพละออกมา รีบวิ่งมาคลินิก เมื่อทำการผ่ากรีดระบายหนองก็จะพบว่าอยู่ดีๆ แมวของเราก็ผลิตสังขยาเองได้ซะอย่างนั้น ซึ่งฝีนี้เอง ก็เกิดจากการบาดแผลที่ได้รับบาดเจ็บและมีการติดเชื้อ โดยที่ไม่ได้รับทำความสะอาดที่ถูกต้องแต่แรกนั่นเอง
2. เลือดออก ให้(รีบ)บอกหมอ
น้องหมาหรือน้องแมวที่อยู่ดีๆมีจ้ำเลือดออก (จ้ำเลือดต่างจากตุ่มยุงกัดคือ เมื่อกดไปแล้ว รอยแดงนั้นไม่หายไป) หรือมีเลือดกำเกาไหล เหงือกซีด เลือดออกที่เยื่อตาขาวหรือในลูกตา ไอหรืออ้วกเป็นเลือดฉี่ หรือ อึเป็นเลือด(รวมถึงการอ้วกหรืออึเป็นสีดำด้วยนะจ๊ะ) ขึ้นชื่อว่าเลือดออกที่ไหนก็แล้วแต่ เจ้าของไม่ควรนิ่งนอนใจปล่อยไว้ 3-4วัน แล้วพอหมาทรุดหนักก็มาบอกหมอว่ามันเพิ่งเป็นเมื่อวาน มีจ้ำเลือดโผล่ ไม่ใช้พรายย้ำ แต่อาจเป็นความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือดอย่างรุนแรง เช่น เกล็ดเลือดต่ำรุนแรง ได้รับสารพิษที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัวเช่นยาเบื่อหนูกลุ่ม wafferin เป็นต้น บางตัวถึงขั้นต้องถ่ายเลือด (เช่นที่เจอวันนี้)และต้องเป็น whole blood หรือเกล็ดเลือด ด้วยซึ่งหายากเข้าไปอีก ยิ่งถ้าเป็นโรงพยาบาลเล็กๆตามต่างจังหวัด ยิ่งทวีคูณความยากเข้าไปหลายๆเท่า เช่นนี้ หมอเทวดาก็ช่วยไม่ได้นะคะ “เลือดออก ต้องรีบบอกหมอนะคะ” ถ้าไม่แน่ใจให้จำว่า อะไรที่เป็นสีแดงโผล่ขึ้นมาอย่างผิดปกติ ให้พึงสังวรณ์ว่า รอไม่ได้แล้ว
3. จุดธูปไหว้เจ้าอาจทำหมาเราไอ
ไม่ต้องขำนะคะเวลาหมอถามว่าที่บ้านจุดธูปไหว้พระไหม สูบบุหรี่ไหม จุดยากันยุงรึเปล่า หรือ ซักที่นอน ดูดฝุ่น ล้างแอร์ บ่อยแค่ไหน ข้างบ้านมีก่อสร้างหรือเปล่า… เวลาเจ้าของแจ้งว่า “หมาไอ” … ใช่จ๊ะ มันเกี่ยวกันนะเธอ ปัญหาเรื่องสุนัขหรือน้องเหมียวไอนั้น มีสาเหตุได้มากมายมหาศาล แต่สาเหตุใหญ่ๆแบ่งเป็นสองระบบ คือ ไอจากโรคหัวใจ หรือไอจากโรคทางเดินหายใจ แต่สิ่งแรกที่หมออาจจะดูก่อนนั่นคือเรื่องโรคทางระบบหายใจ เนื่องจากตัวรับที่กระตุ้นให้เกิดอาการไอนั้นอยู่ที่ระบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นในหลอดลม หรือหลอดลมฝอยเล็กๆในปอด ซึ่งในบางครั้งพบว่า สาเหตุของการไอหลายๆครั้งมาจากปัญหาสิ่งแวดล้อม เจ้าของต้องหมั่นสังเกตสิ่งแวดล้อมที่น้องอยู่ด้วยนะจ๊ะ นอกจากจะมองหาเรื่องโรคที่น้องเป็นเพียงอย่างเดียว และเชื่อหรือไม่ว่า บางครั้ง แค่เราปรับปรุงสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น ฝุ่นน้อยลง น้องหมาน้องแมวเราก็หายไอได้เฉยเลยล่ะ
4.หมาไม่กินข้าวมาเป็นอาทิตย์แล้วค่ะ..แต่มันเพิ่งป่วยเมื่อวาน…
หยุดการกระทำแบบนี้ซะนะคะคุณเจ้าของทั้งหลาย น้องหมาไม่กินข้าว 3 วันก็ทรุดมากแล้วค่ะ ถ้ายังขืนดื้อไม่พามาหาหมออยู่อีก หมอจะให้เจ้าของอดข้าวอดน้ำสัก3 วัน ว่าจะทนได้ไหม ทั้งนี้เพราะ ปัญหาเบื่ออาหาร ( Loss of appetite) นั้นเป็นกุญแจดอกแรกที่สำคัญของโรคต่างๆมากมาย เพราะ ไม่ว่าน้องหมาน้องแมว จะป่วยด้วยโรคอะไร มันมักจะเริ่มด้วยการ “ไม่กินอาหาร” (ยกเว้น โรคบางโรคที่มีการกินมากขึ้น เช่น เบาหวาน เป็นต้น) เจ้าของมักชอบถามว่า “จะรู้ได้ไงคะหมอว่าหมามันป่วย” นี่ล่ะค่ะ เริ่มจาก ซึม ไม่กินอาหารก่อน “อ้าว แล้วถ้ามันไม่ชอบอาหารที่กินล่ะคะ” ถ้าหมาที่ไม่กินเพราะนางไม่ถูกใจ ส่วนใหญ่นางจะไม่ซึมค่ะ อาจจะดูได้จาก นางจะยังคงหิว และขอกินอยู่ คืออาจจะกินอย่างอื่นยกเว้นอาหารของตัวเองเป็นต้น การที่เจ้าของสังเกตอาการได้ว่า หมาเริ่มซึม ไม่กินอาหาร แล้วรีบพามาตรวจ อาจจะทำให้เราสามารถตรวจพบโรคบางอย่างได้ในระยะเริ่มแรก ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่มีอาการอื่นๆเลยก็ตาม แน่นอน โอกาสรักษาให้หายขาด หรือรอดชีวิตของหมาตัวนั้นก็จะมากขึ้นนะ
5. แมวไม่ฉี่เลยมาอาทิตย์นึง จับท้องแข็งๆเป็นลูก เจ็บ ไม่กินข้าว อ้วก หมอมียาแก้อักเสบให้กินก่อนไหมคะ
หลายครั้งที่ได้ยินเจ้าของเข้ามาเล่าอาการประมาณนี้และขอซื้อยา หมอก็ได้แต่เอามือตบหน้าผากตัวเอง (เพราะจะเอื้อมมือไปตบหัวเจ้าของนั้นคงทำไม่ได้) อั้นฉี่อาทิตย์นึง โอยยยย!!! คุณพระคุณเจ้าช่วย คนเราปกติคิดว่าคงไม่มีใครอั้นฉี่ได้เกิน 24 ชั่วโมงแน่ๆ หรือเจ้าของจะลองไม่ฉี่ดูสักวันก็ได้หากไม่เชื่อที่หมอพูด มันเจ็บปวดทรมานมากนะคะ ปวดฉี่เนี่ย ใครบอกเรื่องเล็ก ภาษาใต้ เขาถึงเรียกว่า “เจ็บเยี่ยว” เคยได้ยินไหมคะ แปลว่าปวดฉี่นั่นแหละ ขนาดเรายังทนไม่ไหวแล้วนังเหมียวที่มีกระเพาะฉี่เล็กแค่กระเป๋าใส่เศษเหรียญ จะไปทานทนได้อย่างไร ปัญหาฉี่ไม่ออก เป็นปัญหาที่สำคัญ !! เร่งด่วน!! และบางครั้งก็ ฉุกเฉิน !! แมวบางตัวโชคร้ายมาถึงในสภาพที่แมวแย่มาก ไตหยุดการกรองเนื่องจากมีแรงดันจากฉี่ในกระเพาะปัสสาวะจำนวนมหาศาล ไตวายก็ตายไว นะคุณ หรือบางตัวก็ต้องทำการเจาะกระเพาะปัสสาวะเพื่อระบายฉี่ออกให้ไตกลับมาทำงานได้ ต้องสวนท่อปัสสาวะคาไว้ ต้องอยู่โรงพยาบาลหลายวัน เนื่องจากมีการติดเชื้อแทรกซ้อนในกระเพาะปัสสาวะ หรือบางตัวทำอะไรไม่ได้ จำเป็นต้องผ่าตัดเอาท่อปัสสาวะมาเปิดที่ก้น หรือหน้าท้อง ที่เค้าเรียกว่า “แปลงเพศ”นั่นแหละค่ะ (จริงๆมันก็ไม่ได้เปลี่ยนจากแมวตัวผู้เป็นแมวตัวเมียนะ) ดังนั้น กาดอกจันตัวโตๆไว้เลยค่ะคุณเจ้าของ นางไม่ได้อยากจะอั้นหรอกค่ะ แต่ที่เจอคือนางฉี่ไม่ได้ ฉี่ไม่ออก ซึ่งสมัยก่อน ปัญหาที่พบมากก็คือ มีปลั๊ก (plug) คือเป็นก้อนโปรตีนเล็กๆ หรือ ก้อนนิ่วไปอุดที่ท่อปัสสาวะที่เล็กจิ๋วของนางเหมียว แต่ปัจจุบันพบว่า เราเจอปัญหาการอุดตัน(obstruction)แบบไม่ทราบสาเหตุ(Idiopathic) มากขึ้น หมายความว่า “หมอก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดจากอะไร” แต่จากการศึกษาพบว่า ปัญหานี้ มักเกิดกับแมวเพศผู้ ทำหมันแล้ว อ้วน และเครียดง่าย ซึ่งต้องย้อนกลับไปที่การเลี้ยงดูด้วย กระบะทรายมีเพียงพอไหม (จำนวนกระบะทราย= จำนวนแมว+1) สภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร แมวกินน้ำอะไร กินอาหารอะไร ซึ่งเรื่องพวกนี้ เป็นหน้าที่ของเจ้าของทั้งสิ้นค่ะ หมอไม่สามารถไปเลี้ยงแมวให้ได้ แต่อย่าลืมว่า ทั้งหมาและแมว ถ้าไม่ฉี่ ต้องรีบพามา (พามาดูก่อนเถอะ ถือว่ามาเที่ยวคลินิกเล่นๆก็ได้นะ)
6. เลี้ยงมา10ปีไม่เคยเช็ดหูหมาเลย … TT
ขออนุญาตใส่หน้าร้องไห้ไว้สักหน่อย หลายครั้งที่เจ้าของน้องหมาหรือน้องแมวมาหาด้วยสภาพ หัวหูเยิน คือ มีแต่รอยเกาเต็มไปหมด ถลอก ติดเชื้อ แล้วก็มาให้หมอรักษาโรคผิวหนัง แต่สาเหตุจริงๆแล้วคือ นาง “คันหูไม่รู้เป็นอะร๊ายย” คันหูค่ะ เพราะในรูหูนั้น เต็มไปด้วยขี้หู ไรน้ำหู น้ำเลือด น้ำหนอง หูอักเสบ หัวเอียง หรือบางตัว ชักมา ! ใช่แล้ว คันหูจนชัก พอหมอเอาสำลีแหย่ลงไปก็ได้ขี้หูดำปิ๊ดปี๋เหมือนผงถ่าน เมื่อนำไปส่องกล้องจุลทรรศน์ก็จะเจอกับไรตัวเล็กๆ เป็นกองทัพ” อี๋ “ มันจะไม่คันได้อย่างไรล่ะ เจ้าของบางคนเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวมาเป็น 10 ปี รักมาก กอดจูบกันทุกวัน แต่… ไม่เคยเช็ดหูให้ลูกๆตัวเองเลย บางคนอ้างว่า หมาดุทำไม่ได้ หรือ มันไม่ยอมบ้างล่ะ กลัวมันเจ็บบ้างล่ะ แต่หมอเชื่อว่า หมาทุกตัว แมวทุกตัวบนโลก เช็ดหูได้ ถ้าเจ้าของฝึกทำให้เค้าตั้งแต่เล็กๆ การที่เราไม่ทำความสะอาด ปล่อยให้น้ำเข้าไม่เช็ดหู หมาอายุมากขึ้น การขับออกของขี้หูไม่ค่อยดีก็จะเกิดการสะสม และเป็นรังของไรในหู แบคทีเรีย ยีสต์ จนเกิดหูอักเสบตามมาในที่สุด หรือ ถ้าทำไม่ได้จริงๆ แนะนำอีกวิธีคือ เวลาพาเค้าไปอาบน้ำตัดขน กระซิบช่างให้ช่วยเช็ดหูให้นิดนึง หรือ จะพามาตรวจสุขภาพหูอย่างน้อยเดือนละครั้ง (ตามการคุมเห็บหมัด) หมอก็ยินดีเช็ดให้นะคะ มันมือเลยล่ะ
7. ป้ากลัวหมาไม่อร่อย เลยใส่น้ำปลา ซีอิ๊วไปในกับข้าวให้หมากิน
หยุดดดดดดดดด !! จำไว้เลยนะคะ ไม่ต้องปรุงรสใดๆให้สุนัขหรือแมวกิน พวกนางไม่ได้กินอาหารด้วยรสชาติเหมือนกับคน (จริงๆคนก็ยึดติดสังขารเนอะ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส) พวกนางกินอาหารจากกลิ่นค่ะ กลิ่นที่ว่าคือ กลิ่นของโปรตีน หรือไขมัน ที่มีอยู่แล้วในวัตถุดิบ เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว (ในกรณีที่เจ้าของทำอาหารโฮมเมดให้น้องหมากิน) ดังนั้น แค่ปรุงให้สุกพอค่ะ ไม่จำเป็นต้องปรุงรสอะไรเลย เพราะนอกจากจะเปลืองเครื่องปรุงโดยใช่เหตุแล้ว ยังเป็นสาเหตุสำคัญของโรคที่พบมากๆเลยก็คือ โรคไต ค่ะ ไตเป็นอวัยวะล้ำค่า ที่เสียแล้วเสียเลย และถ้าไตเสียจนหมดแล้วก็อาจจะเสียชีวิตได้ทันที ไว้มีเวลาหมอจะมาเล่าอาการของน้องหมาน้องแมวที่เสียชีวิตจากโรคไตให้ฟังค่ะ ว่ามันทรมานขนาดไหน
8.ยาทีซี-มัยซิน ไม่ใช่ยาครอบจักรวาล
หลายวันก่อน เพิ่งมีเจ้าของมาเล่าวิธีการรักษามดลูกอักเสบในหมา ด้วยการให้กินยาทีซี-มัยซิน จากร้านขายยาของคน ด้วยความสงสัยใคร่รู้ ว่า ยาอะไร (นะ) ที่วิเศษขนาดใช้รักษาภาวะที่ คุณหมอทั่วโลก ลงความเห็นกันว่า “ต้องใช้วิธีผ่าตัดยกมดลูกออกเท่านั้น การรักษาทางยาไม่ค่อยได้ผล” จึงได้ไปเสิร์ชหาข้อมูลจากความรู้สำเร็จรูป ก็พบว่า ทีซี-มัยซิน เป็นชื่อการค้า ของตัวยา ซีโทรมัยซิน ( Cethromycin) เป็นยาปฏิชีวนะกลุ่ม Ketolide ซึ่งใช้รักษาอาการปอดบวม หลอดลมอักเสบ คออักเสบ และไซนัสอักเสบในคน (ข้อมูลจาก www.haamor.com) และจากการค้นหาในข้อมูลสำเร็จรูป ยังไม่พบงานวิจัยเกี่ยวกับการใช้ยาตัวนี้ในสุนัขและแมว ขนาดยาที่เหมาะสมก็หาไม่เจอด้วยสิ ทีนี้หมอก็ไม่แน่ใจว่า ยาที่เจ้าของซื้อมาป้อนหมาเวลาเป็นแผลหนองหรือเจ็บป่วย หรือเป็นมดลูกอักเสบ ที่ว่านี้ มันจะเป็นขนาดยาที่ปลอดภัยหรือเปล่า (อย่าลืมว่า หมามีขนาดตัวที่ต่างกัน การให้ยาอะไรก็แล้วแต่ ต้องคำนวณน้ำหนักตัวทุกครั้ง ) การใช้ขนาดยาของคนมาใช้กับสัตว์ย่อมไม่ถูกต้อง และอันตรายมากเลย มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับยาตัวนี้ คือ ในคนข้อควรระวังคือ ยาอาจมีผลเป็นพิษต่อตับได้ ดังนั้นหากจะเลือกใช้ยาตัวนี้ โดยที่จะประหยัดเงินค่าพาน้องหมามาหาหมอ อาจจะไม่คุ้มค่ากับตับน้อยๆที่จะเสียไปในอนาคตอันใกล้นี้นะคะ
9.ฉีดวัคซีนกันเถอะ อยากเจอ
ถึงแม้ว่า หลายๆโรคเป็นแล้วจะรักษาได้ยาก หรือ บางครั้งก็ยากที่จะรู้อาการล่วงหน้า แต่ก็มีอีกหลายโรคร้ายๆที่สามารถป้องกันได้ ด้วยการฉีดวัคซีน โดยโรคที่เขาเลือกมาทำวัคซีนนั้น ก็ล้วนแต่เป็น ตัวท๊อปของบรรดาโรครักษายากทั้งสิ้น แถมยังติดต่อง่ายซะด้วย เช่น โรคลำไส้อักเสบสุนัข โรคไข้หัดสุนัข โรคพิษสุนัขบ้า โรคลิวคีเมียในแมว โรคหวัดแมวที่เกิดจากเชื้อไวรัส เป็นต้น มีเจ้าของหลายคนเข้าใจผิดว่า เลี้ยงจำนวนมาก และอยู่แต่ในบ้าน ไม่จำเป็นต้องทำวัคซีน (เพราะเปลืองเงินมาก) นั่นคือการเพิ่มความเสี่ยงอย่างมหาศาลให้กับฝูงสุนัขหรือแมวของเรา หากวันใด พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก มีการระบาดของโรคเกิดขึ้น สุนัขกลุ่มที่ไม่ได้ทำวัคซีนกลุ่มนี้ จะเป็นเป้านิ่งให้เชื้อโรคโจมตีอย่างหนัก และจะค่อยๆทยอยป่วยทยอยตาย เหมือนการล้มโดมิโนเลยทีเดียว ดังนั้น ไม่ว่าเลี้ยงกี่ตัว เลี้ยงปล่อยหรือขังกรง ก็ควรต้องทำวัคซีนให้ครบถ้วนนะคะ
10.หมาไม่ป่วย พามาหาหมอได้ไหมคะ
มาเลยค่ะ เจ้าของหลายคนอาจจะไม่ทราบว่า เราสามารถพาสุนัขและแมวมาตรวจสุขภาพประจำปีได้นะคะ และเป็นสิ่งที่ควรทำกันด้วย (แต่ทำไมไม่ค่อยมีใครทำกันน๊า) การตรวจสุขภาพในที่นี้อาจเป็นการตรวจที่มากกว่าการตรวจร่างกายทั่วไป เช่น การเจาะเลือด ดูเรื่องของค่าเม็ดเลือดต่างๆ การทำงานของตับ ไต เป็นอย่างไร การ X ray ช่องอก ช่องท้อง กระดูก เป็นต้น ซึ่งข้อมูลการตรวจสุขภาพเหล่านี้ จะเป็นข้อมูลสำคัญที่เราจะ “เออรีบ” (Early detection) คือการตรวจพบโรคได้รวดเร็วและง่ายขึ้นกรณีที่ลูกๆของเราป่วยนั่นเองค่ะ
วันนี้คงต้องพอแค่นี้ก่อน ยังมีเรื่องมากมายที่ยังไม่ได้เล่า ขอยกเอาไว้โอกาสหน้านะคะ และก็หวังว่า ข้อมูลข้างต้นนี้จะเป็นประโยชน์ที่จะคอยเตือนใจเจ้าของ ทั้งมือใหม่มือเก่า ให้หันมาสนใจและใส่ใจ น้องหมาน้องแมวของเรามากขึ้น เพราะเขาพูดไม่ได้ เราจึงต้องดูแลเขาอย่างใกล้ชิด เมื่อเลี้ยงเขาแล้วต้องรับผิดชอบความเจ็บป่วยและสุขภาพของเขาด้วยนะคะ ขอให้น้องหมา น้องแมว และเจ้าของที่น่ารัก มีสุขภาพที่แข็งแรงค่ะ
เรื่องโดย “หมอหมาขี้บ่น”
(สพ.ญ. สุภญา พลอยแสงสาย บัณฑิตทุนรุ่นที่ 15 /2560)