ทินกร ปิ่นทอง (อาร์ท) นักเรียนทุนรุ่นที่ 16/2557 ชั้นปริญญาตรีปีที่ 4 คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาศิลปศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
เชื่อหรือไม่ว่าเด็กบ้านนอกจนๆ คนหนึ่งสามารถเติบโตได้อย่างงดงาม เพราะอะไรบางอย่างที่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยน ผมเองเป็นเด็กต่างจังหวัด เด็กอีสานที่แทบจะไม่รู้จักคำว่าความเจริญเป็นอย่างไร ชีวิตคนเรามันก็เหมือนการเดินทางอย่างหนึ่งแหละครับ ทางเดินก็ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป มีหลุมมีบ่อบ้าง มีทางลาดทางชันบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเรียนรู้วิธีการเดินทางอย่างไรให้สู่เป้าหมาย ชีวิตผมโคตรโชคดีเมื่อได้มาพบจุดเปลี่ยนอะไรบางอย่าง ไม่มีศิลปะในวันนั้นก็ไม่มีผมในวันนี้ ไม่มีมูลนิธิดำรงชัยธรรมในวันนั้นก็ไม่มีผมในวันนี้เช่นกัน…
ศิลปะคืออะไร ตอนเด็กๆ ผมยังไม่รู้จักเลยครับ ผมรู้จักแต่การเอาดินสอมาขูดขีดฝาผนังบ้าน นับว่าเป็นกิจกรรมยามว่างที่ผมชอบมาก ชอบเขียนรูปนู่นนี่นั่นไปทั่ว ถามว่าสวยไหม ไม่เลยครับ แต่ผมก็มีความสุขเมื่อได้ทำมัน เมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป ผมเองที่ชอบวาดรูปเล่นแต่เมื่อโตขึ้นกับถูกสังคมปลูกฝังให้เรียนรู้ศาสตร์อื่นที่เป็นค่านิยมของคนไทยส่วนใหญ่ ว่าเด็กจะต้องเรียนรู้วิชาการที่ไม่ใช่ศิลปะ ผมก็เลยเหมือนจะทิ้งศิลปะไปพักหนึ่งใหญ่ๆ มัธยมปลายผมก็เรียนสายวิทย์ แต่ก็นั่นแหละครับตัวผมก็ยังเป็นตัวผม คนมันชอบศิลปะมีหรือจะทิ้งไปง่ายๆ ถึงแม้จะเรียนสายวิทย์ แต่ก็ยังแอบวาดรูปอยู่บ่อยๆ จนได้มาพบกับอาจารย์ท่านหนึ่งในโรงเรียน ท่านเป็นอาจารย์สอนศิลปะที่ดีมากๆ ท่านได้ให้คำแนะนำและส่งเสริมด้านศิลปะให้กับผม ซึ่งนับเป็นแนวทางในการ ใช้ชีวิตของผมทุกวันนี้แหละครับ
โชคชะตามักเล่นตลกกับชีวิต ความฝันของผมคงสลายเมื่อมาถึงทางตันจะจบมัธยมปลายแล้วจะเอาอย่างไรกับชีวิตต่อ ผมยังไม่รู้เลย จะได้เรียนต่อหรือเปล่ายังไม่รู้เลย แม่จะส่งเรียนต่อไหวหรือเปล่า ยังตอบไม่ได้ ช่วงนั้นเครียดมาก ฟ้าเหมือนจะเมตตา ทุกปัญหามีทางออกเมื่อมีแสงสว่างเข้ามาในชีวิต นับเป็นโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตเมื่อผมได้เป็นนักเรียนทุนมูลนิดำรงชีวิตดำรงชัยธรรม โอกาสครั้งนั้นทำให้ผมมีแรงสู้ต่อพร้อมจะเดินทางต่อพร้อมๆ กับสิ่งที่ผมรักนั่นคือศิลปะ ชีวิตในมหาวิทยาลัยทำให้ผมได้รู้จักกับศิลปะมากขึ้น และผมก็ได้พบกับอะไรบางอย่างที่มากกว่าศิลปะ และผมคิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างมากความฝันอีกอย่างของผมคือการนำศิลปะไปช่วยประโยชน์ต่อสังคม
ศิลปะ ในความคิดของบางคนอาจคิดว่าเป็นเพียงการขีดเขียนระบายสี หรือการทำงานทางด้านศิลปะแขนงหนึ่ง ที่ช่วยทำให้จิตใจและอารมณ์เบิกบาน สามารถปลดปล่อยจินตนาการไปกับสีสันที่ระบายลงบนกระดาษสีขาวอันว่างเปล่า จนออกมาเป็นรูปภาพสวยงาม และที่สำคัญคือเป็นการช่วยสร้างสมาธิที่ดี แต่หากเราได้ศึกษาให้ลึกลงไปอีกจะพบว่า ศิลปะยังเป็นศาสตร์ที่ช่วยในการบำบัดอาการของโรคได้มากมาย รวมทั้งช่วยทำให้คนที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวเปลี่ยนกลับเป็นอีกคนที่มีพฤติกรรมดีได้ โดยในทางการแพทย์เรียกศาสตร์นี้ว่า “ศิลปะบำบัด” (Art Therapy)
อำลาตำแหน่งทูตวัฒนธรรมทางการศึกษา (เดือน)
ผมมีโอกาสได้สอนพิเศษวิชาศิลปะซึ่งเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามากผมได้พบกับเด็กหลากหลายประเภทรวมถึงเด็กพิเศษ นักเรียนผมคนหนึ่งเป็นออทิสติก มีปัญหาการเข้าสังคม สื่อสารกับใครไม่ค่อยได้ อารมณ์รุนแรงมีพฤติกรรมแปลกๆ คุณแม่ของน้องพามาเรียนศิลปะกับผมทุกวันอาทิตย์ ครั้งแรกยอมรับว่าตกใจมาก ผมไม่เคยเจอเด็กประเภทนี้ วางตัวไม่ถูกน้องมีพฤติกรรมที่ผมเองก็รับไม่ไหว น้องไม่ยอมทำงานที่ผมให้ทำ น้องซนมากส่งเสียงดังในบางครั้งทำให้เพื่อนคนอื่นไม่มีสมาธิ วันแรกคุณแม่น้องเห็นว่าน่าจะไม่รอดก็เลยพากลับก่อน และได้บอกพฤติกรรมต่างๆ ของน้องให้ฟังและขอให้ผมช่วยสอนศิลปะน้องเพราะน้องชอบมาก ผมก็เลยเข้าใจและยอมรับที่จะสอนต่อ ครั้งต่อมาผมเริ่มที่จะเรียนรู้พฤติกรรมน้อง ค่อยๆ ปรับพฤติกรรมไปทีละด้าน ผมยอมรับว่าผมไม่ได้เก่งด้านการสอนเด็กพิเศษ แต่ผมตั้งใจที่จะนำศิลปะบำบัดที่ผมได้เรียนมาช่วยบำบัดพฤติกรรมน้อง เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ พฤติกรรมน้องเปลี่ยนไป ความสุขของผมตอนสอนน้องคนนี้ไม่ใช่การได้เห็นผลงานของน้องว่าสวยหรือไม่สวย แต่ความสุขของผมคือการได้เปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างของน้องถึงจะไม่หายขาดแต่มันก็ดีขึ้นกว่าเดิม นับเป็นความสุขและความภูมิใจที่หาค่าไม่ได้ มันทำให้ผมมีกำลังใจที่จะสอนต่อ และพัฒนาตัวเองเรื่อยๆ
ศิลปะบำบัดคืออะไร หลายคนไม่เข้าใจผมจะอธิบายให้ฟังคร่าวๆ ศิลปะบำบัด คือ การใช้กิจกรรมทางศิลปะในแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการวาด การปั้น การระบายสี เป็นต้น เพื่อใช้วินิจฉัยหาข้อบกพร่อง ความผิดปกติบางประการของกระบวนการทางจิตใจกับผู้ที่ไม่สามารถบอกเล่าความรู้สึกนึกคิดออกมาเป็นคำพูดได้ หรือในผู้ที่มีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับผู้อื่น โดยงานศิลปะจะช่วยให้พวกเขาได้แสดงความรู้สึกนึกคิดที่ถูกเก็บกดเอาไว้ออกมา นอกจากนี้เรายังสามารถนำศิลปะมาใช้ตรวจวิเคราะห์อารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดของคนไข้ได้ด้วย ซึ่งจะวิเคราะห์อาการจากผลงานหรือการแสดงออกทางผลงานศิลปะนั่นเอง ความน่าสนใจของศิลปะบำบัดอยู่ที่กระบวนการระหว่างการทำงานที่ไม่จำเป็นต้องสนใจว่า ผลงานที่ได้สุดท้ายจะสวยหรือไม่สวย แต่สิ่งสำคัญคือการได้รู้ว่ากำลังวาดรูปอะไร ทำอะไร คิดอะไร และมีสมาธิกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ตรงหน้ามากกว่า เป็นการใช้กิจกรรมทางศิลปะเพื่อช่วยให้ร่างกายและอารมณ์ดีขึ้น หรืออาจกล่าวได้ว่าหัวใจของศิลปะบำบัดคือการปลดปล่อย ได้มีการพัฒนาทางอารมณ์ ทำให้ใจเย็น จะทำอะไรก็มีสมาธิมากขึ้น ดังนั้น ศิลปะบำบัดจึงมีประสิทธิภาพในการบำบัด ฟื้นฟู และพัฒนาอารมณ์ สติปัญญา สมาธิ ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงมีส่วนช่วยในการพัฒนากล้ามเนื้อและการเคลื่อนไหวของร่างกาย และยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะกระตุ้นการสื่อสารและเสริมสร้างทักษะทางสังคม ทำให้เราสามารถวิเคราะห์และรับรู้ได้ว่า สภาพจิตใจของแต่ละบุคคลเป็นเช่นไรหลังจากที่ได้ทำงานศิลปะเสร็จแล้ว
ในอนาคตผมมองว่าศิลปะจะช่วยให้ชีวิตผมก้าวไปข้างหน้าได้อย่างภาคภูมิ ผมขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังมีปัญหาหรือท้อแท้ หมดกำลังใจ เมื่อคุณหมดหวังขอให้คุณมองหาสิ่งที่คุณชอบและรักมัน ให้คุณลองนำมันมาใช้และเรียนรู้การอยู่กับมัน ไม่แน่ว่าคุณอาจจะพบกับหนทางไปสู่ความสำเร็จก็ได้ผมอยากขอบคุณสิ่งต่างๆ มากมายที่เข้ามาในชีวิตผม ขอบคุณศิลปะที่เป็นมากกว่าสุนทรียะในชีวิต ขอบคุณนักเรียนทุกคนที่สร้างบทเรียนให้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ และเหนือสิ่งอื่นใดขอบคุณมูลนิธิดำรงชัยธรรมที่เปรียนเสมือนแสงสว่างในชีวิตไม่มีมูลนิธิในวันนั้นก็ไม่มีผมในวันนี้..
ตัวอย่างผลงาน