สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมก็จะขอนำเสนอคอลัมน์ใหม่ เพื่อเอาใจพี่ๆ น้องขาเที่ยวกันนะครับ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่การเดินทางมาท่องเที่ยวญี่ปุ่น ของนักท่องเที่ยวชาวไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากกำลังซื้อของคนรุ่นใหม่ที่มีมากขึ้น และมาตรการยกเว้นการขอวีซ่าให้กับคนไทยเป็นระยะเวลา 15 วัน ทำให้การเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นนั้นทำได้ง่ายขึ้น
ถ้าทุกท่านได้เดินทางมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่น นอกเหนือจากการใช้ภาษาอังกฤษแล้ว หากมีพื้นฐานความรู้ทางด้านภาษาญี่ปุ่นเอาไว้บ้าง ผมคิดว่าน่าจะเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่ง และทำให้การเที่ยวของทุกคนสนุกสนานมากยิ่งขึ้นแน่นอนครับ
ผมจึงอยากจะขอแนะนำ สำนวนภาษาญี่ปุ่นพื้นฐานในชีวิตประจำวัน และสอดแทรกความรู้ด้านภาษาญี่ปุ่นเล็กๆ น้อยๆ ให้กับทุกคนครับ
เริ่มแรก เรามาทำความรู้จักกับตัวอักษรในภาษาญี่ปุ่นกันก่อนนะครับ ภาษาญี่ปุ่นนั้นมีตัวอักษรอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท ได้แก่ ตัวอักษร Hiragana (ฮิรางานะ) ตัวอักษร Katakana (คาตาคานะ) และตัวอักษร Kanji (คันจิ)
สำหรับตัวอักษรแต่ละชนิด ต่างก็มีบทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกันไป คือ
-ตัวอักษรฮิรางานะ จะใช้ในการเขียนแสดงคำภาษาญี่ปุ่น และเป็นเสียงอ่านของตัวอักษรคันจิ มีจำนวนตัวอักษรพื้นฐานอยู่ 46 ตัว
-ตัวอักษรคาตาคานะ จะใช้ในการเขียนแสดงคำศัพท์ ที่เป็นคำยืมจากภาษาต่างประเทศ แทนคำเลียนเสียง หรือใช้ในการเน้นย้ำความหมายของคำของอักษรฮิรางานะ มีจำนวนตัวอักษร 46 ตัว
-ตัวอักษรคันจิ คือตัวอักษรที่ญี่ปุ่นยืมมาจากประเทศจีน ตั้งแต่สมัยโบราณ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นได้กำหนดตัวอักษรคันจิพื้นฐานที่ควรทราบ (Jouyoukanji) เอาไว้ที่ 2,136 ตัว
ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นนั้น ก็มีการใช้ตัวอักษรทั้งสามแบบนี้รวมๆ กัน ทำให้ผู้ที่จะเรียนภาษาญี่ปุ่นนั้น จำเป็นต้องรู้จักและทำความเข้าใจตัวอักษรทั้งสามประเภทนี้ให้ดี
สำหรับในคอลัมน์นี้ ผมจะขอแนะนำตัวอักษรฮิรางานะ และตัวอักษรคาตาคานะ อย่างละ 20 ตัว ให้ทุกๆ คนได้ทราบกันนะครับ และจะมีแบบฝึกอ่านท้ายบทด้วย ถ้าหากพี่ๆ น้องๆ สนใจก็เชิญลองทายดูนะครับ
ฮิรางานะ-คาตาคานะ | |||||
แถว a | แถว i | แถว u | แถว e | แถว o | |
วรรค a | あ―ア
a |
い―イ
i |
う―ウ
u |
え―エ
e |
お―オ
o |
วรรค ka | か―カ
ka |
き―キ
ki |
く―ク
ku |
け―ケ
ke |
こ―コ
ko |
วรรค sa | さ―サ
sa |
し―シ
shi |
す―ス
su |
せ―セ
se |
そ―ソ
so |
วรรค ta | た―タ
ta |
ち―チ
chi |
つ―ツ
tsu |
て―テ
te |
と―ト
to |
จากตารางด้านบน ทุกคนจะเห็นได้ว่า ตัวอักษรฮิรางานะและคาตาคานะ จะมีเสียงอ่านและคู่ของกันและกัน และจะสังเกตได้ว่า ภาษาญี่ปุ่นนั้น จะมีสระอยู่เพียงแค่ 5 เสียงเท่านั้น ได้แก่ a,i,u,e,o และสระเหล่านี้ก็จะรวมอยู่กับตัวอักษร และอ่านออกเสียงพร้อมๆ กัน
ยกตัวอย่างเช่น たこ(ปลาหมึกยักษ์) อ่านว่า ta-ko ทาโกะ, すし(ซูชิ) ก็อ่านว่า su-shi ซุชิ นั่นเองครับ
ก่อนจะลากันไปในครั้งนี้ ผมก็มีสำนวนที่ใช้ในการทักทายมาแนะนำ ยังไงก็ลองนำไปฝึกกันได้นะครับ สำหรับคำทักทายในภาษาญี่ปุ่นนั้น จะแบ่งออกเป็น 3 สำนวน ตามระยะเวลาในแต่ละวันครับ ได้แก่
–ในช่วงเช้า จนถึงก่อนเที่ยง จะใช้คำว่า Ohayoo gozaimasu โอฮาโย โกะไซมัส (おはよう ございます)สวัสดีตอนเช้า
–ในช่วงเที่ยงวัน จนถึงก่อนเวลาพระอาทิตย์ตกดิน และใช้เป็นคำทักทายทั่วๆ ไป จะใช้คำว่า Konnichiwa คนนิจิวะ (こんにちは)สวัสดีตอนบ่าย
–ในช่วงตอนเย็น หลังพระอาทิตย์ตกดิน จะใช้คำว่า Kombanwa คมบังวะ (こんばんは)สวัสดีตอนเย็น
สุดท้ายนี้ ผมก็มีคำศัพท์ที่อยากจะใช้ทุกคนได้ลองฝึกอ่านกันดูนะครับ โดยเทียบกับตารางตัวอักษรที่อยู่ด้านบน
ได้แก่ ①かく(เขียน) ②あう(พบ,เจอ) ③いけ(หนองน้ำ) ④タイ(THAI ประเทศไทย) ⑤テスト(Test การทดสอบ)
อย่างไรถ้าทุกคนสนใจ และมีสำนวนอะไรที่อยากทราบ ก็บอกกล่าวเข้ามาได้นะครับ ผมจะไปค้นคว้าแล้วนำมาเสนอให้ได้ทราบกันครับผม สำหรับในครั้งนี้ ลาไปก่อน สวัสดีครับ
ผู้เขียน : ไพโรจน์ เมืองมนประเสริฐ (โรจน์) บัณฑิตทุน รุ่นที่ 13/2557