นิภาพร สีทน (อุ้มรัก)
บัณฑิตทุน มูลนิธิดำรงชัยธรรม รุ่นที่ 11/2555
วิทยาศาสตรบัณฑิต (เกษตรศาสตร์) มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ปัจจุบัน ศึกษาระดับปริญญาโท ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
“การเกษตรทุกสาขา ผู้ที่ปฏิบัติทราบดีว่า เป็นสิ่งที่ยาก มิใช่ของที่ง่ายๆ เพราะว่าจะต้องมีวิชาความรู้ประกอบการปฏิบัติอย่างมาก นอกจากวิชาความรู้แล้วนั้น ต้องมีความอดทนหรือมีความเข้มแข็งในจิตใจ และปัจจัยสำคัญคือ ความสามัคคี”
วันนั้นที่มีโอกาสได้ยินพระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ จากน้องๆ ที่กำลังล้อมวงร้องเพลงบูมที่บัณฑิตคณะเกษตรศาสตร์ ทำให้นึกถึงเมื่อครั้งที่ตัวเองเป็นนักศึกษาปี 1 จนกระทั่งเรียนจบตลอดเวลาระหว่างเรียนที่จะต้องใช้ความอดทน ขยันมุมานะ พากเพียรเพื่อให้สำเร็จการศึกษาก็มีความเป็นจริงดั่งพระบรมราโชวาทฯ ทุกประการ จนมีโอกาสได้ทำงานซึ่งดิฉันได้ทำงานแค่ 1 ปีจึงเรียนต่อ โดยทำงานเป็นผู้ช่วยนักวิจัยที่ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ 6 เดือน และที่คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีอีก 6 เดือน มีหลายคนชอบถามว่าเหนื่อยเรียนหนังสือ? ไม่เหนื่อยเหรอเรียนต่อ? ดิฉันตอบได้เต็มปากว่าเหนื่อยนะ บางครั้งที่มันท้อ แต่เมื่อเราเลือกเดินมาแล้วจะถอยไม่ได้ต้องสู้เท่านั้น ทำไมดิฉันถึงเรียนต่อ? เพราะโอกาสที่เดินเข้ามาในชีวิตตอนนั้นถ้าเราไม่เรียนต่อตอนนี้ และถ้าอยากเรียนในอนาคตจะได้เรียนไหม ทำให้ตัดสินใจเรียน และคิดเสมอว่าถ้าเราเรียนมากขึ้นเราจะมีโอกาสรู้อะไรมากขึ้น มีโอกาสทำงานในสิ่งที่เราทำแล้วสนุก จนปัจจุบันทำให้รู้ว่ายังมีอะไรอีกมากมายที่เราจำเป็นต้องรู้ และน่าสนใจมากขึ้น ถ้ามีคนถามว่าจะเรียนต่ออีกไหม? คงตอบไม่ได้ คงเป็นเรื่องของอนาคตไป
กำลังใจแรงยามที่เหนื่อยและท้อ ครอบครัวบ้านสิ่งสำคัญ เวลาที่เรากลับบ้านอยู่กับครอบครัวแล้วมีความสุข เหมือนได้เติมพลัง ปัจจุบันกลับบ้านประมาณเดือนละ 1 – 2 ครั้ง มีโอกาสก็กลับไปช่วยงานท่าน ซึ่งปกติดิฉันจะกลับไปช่วยช่วงฤดูทำนา ขุดมันสำปะหลัง ซึ่งสุดท้ายแล้วไม่ว่าเราจะเรียนจบสูงเพียงไหนพ่อแม่ของเราก็คือชาวนา พ่อแม่เรายังคงทำงานหนัก ยังคงทำนาหรือทำไร่ เราในฐานะลูกก็ต้องช่วยแบ่งเบาภาระงานของท่าน ดิฉันคงสามารถช่วยได้ในระยะเวลาที่เรียนอยู่ใกล้บ้าน ถ้าเรียนจบแล้วถ้าต้องไปทำงานไกลบ้านไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ช่วยงานท่านแบบนี้หรือเปล่า ดิฉันรู้สึกมีความสุข และอยากอยู่กับท่านไปนานๆ อยากทำงานอยู่ที่บ้าน ได้ทานข้าวด้วยกินทุกวัน
ความคาดหวังสำหรับอนาคตละกัน? ดิฉันคิดว่าคำว่าประสบความสำเร็จของฉันและพ่อกับแม่คงไม่เหมือนกันเท่าไหร่ พ่อแม่คงคาดหวังให้เราทำงานมีเงินเดือนเยอะๆ ซึ่งมันอาจจะตรงกันข้ามกับความคิดของดิฉัน โดยดิฉันหวังว่าสักวัน ฉันอยากกลับไปอยู่บ้าน มีอาชีพของตัวเองที่สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ ทุกคนในบ้านสามารถช่วยกันทำงานซึ่งเป็นงานของบ้านเรา มีรายได้ร่วมกัน สามารถเลี้ยงครอบครัวเราได้ เราได้อยู่พร้อมหน้ากัน ทุกคนมีความสุข